เจาะลึกเทคโนโลยี Digital Twin คืออะไร? ส่งผลยังไงกับธุรกิจใน 2023

เจาะลึกเทคโนโลยี Digital Twin คืออะไร? ส่งผลยังไงกับธุรกิจใน 2023

Digital Twin หรือโลกคู่แฝดระบบดิจิทัล คือเทคโนโลยีจำลองโลกกายภาพให้มาอยู่ในโลกดิจิทัลหรือโลกเสมือน Virtual World คล้ายๆกับ Virtual Reality (VR) แต่ต้องมีการตอบสนองไป-กลับ แสดงผลแบบ Realtime ทำให้เห็นกระบวนการทำงานหรือระบบต่างๆ ของวัตถุในโลกจริง (Physical World) ได้หลายมิติมากยิ่งขึ้น

โลกคู่ขนานหรือโลกคู่แฝด Digital Twin สามารถแยกออกได้เป็น 2องค์ประกอบได้แก่ Physical System (ระบบทางกายภาพ) และ Mirror-Image Virtual System (ระบบภาพสะท้อนเสมือน) ที่จะเชื่อมโยงวงจรชีวิต (Life Cycle) ทั้ง 4 อย่างของกระบวนการสร้าง (Creation) การผลิต (Production) การดำเนินการ (Operation) และการกำจัด (Disposal) ซึ่งในเวลาต่อมาโมเดลนี้ก็ได้ถูกขยายออกไป และระบบเสมือนก็ได้กลายมาเป็น Digital twin ของระบบทางกายภาพ และได้ถูกพัฒนาผ่านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีใหม่ๆ จนได้รับความสนใจในวงกว้าง แต่คำถามก็คือการที่ธุรกิจจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้คืออะไร ?

ลองคิดตามง่ายๆว่าจะเป็นอย่างไรถ้าบ้านของเรามีอีกโลกเสมือนที่สามารถจำลองเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุม Monitor ไฟฟ้า ครอบครัวหรือสัตว์เลี้ยงได้แบบ Realtimeและสามารถโต้ตอบไปมาได้ด้วย โดยที่ตัวเราจริงๆไม่จำเป็นต้องอยู่ในบ้านก็ได้ เช่น การปิดไฟ-น้ำที่ไม่ได้ใช้ , ให้อาหารสัตว์เลี้ยงตอนอยู่ต่างจังหวัด ตรวจสอบความปลอดภัยบริเวณบ้านเช่นขโมยหรืออุบัติเหตุ

หรือถ้ามองภาพที่ใหญ่ขึ้นคือการใช้บริการรถโดยสารบอกเวลาของรถ สามารถช่วยประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวก ซึ่งจุดประสงค์หลักของเทคโนโลยี Digital Twin คือการประหยัดพลังงาน สามารถจำลองเหตุการณ์สถานการณ์ที่โลกทางกายภาพไม่สามารถทำได้ คาดการสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นและเพิ่มคุณภาพชีวิต

ผู้ที่อยู่ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในสายงานก่อสร้าง  Building Information Modeling หรือ BIM ซึ่งหลายบริษัท โดยเฉพาะในฝั่งผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้นำเทคโนโลยี Digital Twin ไปใช้และพัฒนาองค์กรให้เข้าสู่โลกดิจิทัล ในต่างประเทศ การใช้ Digital Twin เพื่อการบริหารสินทรัพย์ จำพวกอาคาร โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ หรือที่ในประเทศไทยเรียกกันว่า ‘สร้างแล้วบริหาร’ เช่น ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, โกดังสินค้า, อาคารสำนักงาน เป็นเรื่องแพร่หลายมาก

ดังนั้นการนำ Digital Twin มาใช้จึงเป็นการต่อยอด จากผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นของ BIM Model ซึ่งเจ้าของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีอยู่แล้ว และได้ประโยชน์ไปแล้วตอนก่อสร้าง แต่เราจะนำมาใช้ประโยชน์ต่อเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรสูงสุดในรูปแบบการบริหารสินทรัพย์

เพราะบ่อยครั้งเมื่องานก่อสร้างจบ สิ่งที่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีวางไว้ในคอมพิวเตอร์ คือ Digital Twin ซึ่งส่วนใหญ่เป็น BIM Model ที่พนักงานในองค์กรไม่เข้าใจและไม่ทราบว่าจะนำไปใช้ประโยชน์อะไร ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือฐานข้อมูลอาคารชั้นดี ที่สามารถนำไปใช้ ‘ต่อยอด’ และ ‘สร้างแต้มต่อทางธุรกิจ’ ได้หลากหลายมาก ตัวอย่างดังต่อไปนี้

  1. สร้างประสบการณ์ที่ดี เห็นภาพตรงกัน : เข้าถึงธุรกิจหรือสถานที่ได้ง่ายและสะดวกโดยไม่ต้องลงสถานที่จริง คือการจำลองสถานที่ในรูปแบบ Virtual Tour 360 มีความสมจริงสามารถกำหนดองค์ประกอบพื้นที่ ลงรายละเอียดได้ เข้าใจง่าย ทำให้ลูกค้าหรือนายทุนตัดสินใจได้แบบ Realtime
  2. เพิ่มความแม่นยำ ลดเวลาการบำรุงรักษาอาคาร : สามารถระบุปัญหาความเสียหายในอาคารรวมถึงตำแหน่งที่ซ่อนอยู่ (ตำแหน่งที่ไม่สามารถควบคุมโดยคนได้ทั้งหมด) เทคโนโลยี Digital Twin เพิ่มความละเอียดและแม่นยำ ยืนยันตำแหน่งและข้อมูลต่างๆ ให้เป็นไปอย่างง่าย ลดความผิดพลาดและเวลาในการทำงาน
  3. เพิ่มช่องทางในการหารายได้ : การใช้โลกเสมือนมาใช้ในทางการตลาด เพิ่มฟังก์ชัน ข้อมูล ลูกเล่นต่างๆให้กลุ่มเป้าหมายมีส่วนร่วมและข้อมูลน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
  4. ช่วยควบคุมพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ : สามารถจำลองการใช้พลังงานซึ่งผู้บริหารสามารถ Monitor สภาพแวดล้อมได้อย่างครอบคลุมและนำข้อมูลต่างๆมา Optimize  ซึ่งเป็นประโยชน์มากในโรงงานอุตสาหกรรม
  5. ยกระดับความปลอดภัย : การจำลองสถานการณ์อันตรายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร ไฟไหม้ ภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือแม้แต่เหตุการณ์ก่อการร้าย

ต้นฉบับ : TerraBKK.com – https://www.terrabkk.com/articles/199822