การเพิ่มโอกาสและผลักดันธุรกิจของคุณด้วย Matterport

การเพิ่มโอกาสและผลักดันธุรกิจของคุณด้วย Matterport

ทุกวันนี้การซื้อขายสินค้าออนไลน์ มีบทบาทในบ้านเมืองเราเป็นอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงโควิดแทบจะเป็น 94% ในการซื้อของในชีวิตประจำวันเลยก็ว่าได้ ซึ่งในรูปแบบการซื้อสินค้าออนไลน์ปัจจุบันมักจะเป็นการดูรายละเอียดสินค้าจากเว็บไซต์ต่างๆ และดูตัวอย่างผ่านรูปภาพหรือไม่ก็อ่านรีวิวผู้ที่เคยซื้อมาแล้ว แต่ทว่าการดูและศึกษาสินค้านั้นๆ ก็จะเป็นภาพที่ผ่านการตัดแต่งให้มีความน่าสนใจ และสวยงามน่าซื้อ บางท่านอาจจะมีความกังวลภานในใจว่าสิ่งที่จะส่งมานั้นจะเป็นอย่างที่รูปในโฆษณาหรือตามหน้าเว็บไซต์หรือไม่

จะดีกว่าหรือไม่หากการเลือกซื้อสินค้านั้นเป็นการดูจากสถานที่จริง เพื่อที่ลูกค้าจะได้เห็นบริบทโดยรอบสินค้าทั้งแสง สี และมีคู่เปรียบเทียบถ้าหากนำไปใช้งานจริง หรือแม้กระทั่งขนาดที่บอกถึงสรีละของแต่ละคนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งในสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ Dfine อยากจะบอกว่าสามารถเกิดขึ้นได้ที่บ้านของคุณผ่านนวัตกรรมที่เรียกว่า Virtual World ซึ่งนวัตกรรมตัวนี้เป็นการแสดงภาพเสมือนของสถานที่จริง 100% ทำให้เรานั้นสามารถเห็นถึงบริบทต่างๆของสถานที่จริง ทำให้การเลือกซื้อสินค้าของเรานั้นสะดวกและมั่นใจในสินค้านั้นๆ มากยิ่งขึ้น

การสร้าง Virtual World ของร้านค้าหรือว่าสถานที่อื่นๆ นั้น หลายคนคงคิดว่าอาจจะต้องใช้อุปกรณ์ราคาหลักล้านบาท มีขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก มีการใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน แต่แท้ที่จริงแล้วในปัจจุบันการสร้าง Virtual World เป็นไปได้เพียงไม่กี่ขั้นตอน และระยะเวลาที่ใช้ก็ลดลงไปกว่า 40-60% ด้วยสิ่งที่เรียกว่า Matterport นั่นเอง ซึ่งเจ้าเครื่องนี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่สำหรับในประเทศไทยนั้น Virtual World ยังถือว่าได้รับความนิยมไม่มากนักหากเทียบกับฝั่งตะวันตก และหลายคนยังไม่ค่อยทราบถึงคุณประโยชน์และความสามารถในการทำงานของ Matterport มากนัก

               

การสร้าง Virtual World ด้วยเครื่อง Materport Pro 2

  1. ขั้นตอนวางแผนการทำงาน ในขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ผู้จัดทำต้องวางแผนว่าจะถ่ายจุดใดเป็นจุดเริ่มต้น และถ่ายต่อไปที่ใดบ้าง และขนาดพื้นที่นั้นๆ จะต้องใช้เวลาถ่ายมากน้อยเพียงใด
  2. การเริ่มต้นถ่ายทำ ผู้ถ่ายทำต้องเลือกจุดที่สามารถมองเห็นภาพรวมของสถานที่นั้นๆ ให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าหากว่าในจุดเริ่มต้นสามารถเก็บภาพรวมได้มากเท่าไหร่การทำงานในจุดถัดไปก็จะสามารถทำงานให้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
  3. การอัพโหลดขึ้นระบบ Saas พอมาถึงขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่หลายคนน่าจะพากันหันหน้าหนีอย่างแน่นอน เพราะดูแล้วน่าจะยุ่งยาก และต้องใช้ทักษะคอมพิวเตอร์ที่สูงมากๆ แต่ที่จริงเราเราแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงกดปุ่ม Upload หลังจากสแกนงานเสร็จ จากนั้นเราทำเพียงรอให้การอัพโหลดเสร็จสมบูรณ์เพียงเท่านี้ก็จะได้ Virtual World ของเราทันที
  4. การกำหนด Tags&Details เป็นหนึ่งในฟังก์ชั่นหลักของ Virtual World ที่สามารถเพิ่มข้อมูลในจุดต่างๆ ของงานได้ ยกตัวอย่างเช่น การนำไปใช้ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ นอกจากภาพที่ต้องการสื่อสารแล้ว คำอธิบายก็เป็นอีกส่วนที่ผู้ชมต้องการทราบเช่นกัน โดยเราสามารถนำข้อมูลที่มีไปใส่ใน MetaTags เพื่อให้ข้อมูลได้เช่นกัน และนอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ได้ทันที
  5. highlight & Presentation นอกจากการเดินชมในรูปแบบอนไลน์แล้ว เรายังสามรรถต่อยอดและการใช้ฟังก์ชั่นการทำงานให้เป็นประโยชน์ได้อีกด้วย เพราะฟังก์ชั่น highlight สามารถทำภาพสไลท์โชว์ในมุมเด่นๆ ของ Virtual World จุดใดก็ได้ และสามารถบันทึกหราจอเพื่อไปเปิดเป็นสไลท์โชว์ได้อีกด้วย

Leave a Reply