วิธีการถ่าย Matterport จาก Matterport Pro2 เบื้องต้นใช้งานได้จริง

วิธีการถ่าย Matterport จาก Matterport Pro2 เบื้องต้นใช้งานได้จริง

หลายท่านที่เข้ามาในโพสต์นี้จะต้องรู้จัก Virtual Tour ในระดับนึง ที่เป็นการท่องเที่ยวแบบเสมือน ที่หลายๆบริษัทชั้นนำใช้เพื่อแสดง
พื้นที่ภายใน ที่ทำให้ผู้เข้าใช้รู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในสถานที่นั้นๆ แบบจริงๆเลย ซึ่งเราได้จัดทำบทความที่เกี่ยวกับผู้อยากเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้าง
การใช้เครื่องมือต่างๆ โดยเป็นการสรุปเอาไว้ให้ใน Matterport คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง? หรือบทเรียนทั้งหมดของเราใน เรียนรู้ Matterport ทุกขั้นตอน ใครๆก็ทำได้
และในบทความนี้เราได้ทำการยกตัวอย่างการใช้งานเบื้องต้นจาก Matterport Pro2 ที่เป็นกล้องเก็บภาพ 3มิติ สำหรับเก็บภาพสถานที่ ภายในอาคาร ห้อง สถานที่ต่างๆ
ในรูปแบบไฟล์ 3มิติ สามารถเรียกดูได้เสมือนไปอยู่ในสถานที่จริงใน Platform ของ Matterport

 

ทำความรู้จัก Matterport Pro2
กล้องเก็บภาพ 3มิติ สำหรับเก็บภาพสถานที่ ภายในอาคาร ห้อง สถานที่ต่างๆ ในรูปแบบไฟล์ 3มิติ สามารถเรียกดูได้เสมือนไปอยู่ในสถานที่จริงใน Platform ของ Matterport
สำหรับ (360 Digital Tour) หรือ สามารถ Export ไปใช้ใน Software อื่นเช่น Autodesk Revit (BIM แบบจำลองทางสถาปัตยกรรม)
การใช้งานค่อนข้างง่าย สั่งงานด้วย Bluetooth หรือ Wifi ใช้เวลา 1นาที ต่อจุด

เข้าเนื้อหาเบื้องต้น เราจะแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่จะใช้
1 Matterport Pro2
2 ขาตั้งกล้อง
3 โทรศัพท์มือถือ หรือ Tablet Ipad ใช้ได้ทั้ง IOS และ Androi
โปรแกมหรือ Application ที่ใช้งาน

วิธีการใช้งานตัวกล้อง
การใช้งานของตัวกล้อง Matterport Pro2 เพื่อเก็บภาพ 3มิติ จะใช้งานผ่าน Application Matterport Capture สามารถใช้ได้ทั้ง ได้ทั้ง IOS และ Android
หลังจากทำการดาวน์โหลดมาแล้ว ให้เราทำการสมัครสมาชิกให้เรียบร้อย ผู้ใช้งานฟรีจะสามารถทำการสแกนเก็บได้ 1Space ต่อ 1สมาชิก
วิธีการสมัครสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dfine3d.com/matterport-sign-up/

วิธีการการติดตั้ง
การติดตั้งกล้อง จะติดตั้งเข้ากับขาตั้งกล้อง และขาตั้งกล้องที่ใช้ต้องแข็งแรง หรือเป็นขาตั้งกล้องสำหรับโปร เนื้องแรงการหมุนของ Matterport Pro2
ค่อนข้างเร็วและเหวี่ยงพอสมควร เริ่มโดยการนำรูหมุนเข้าขาตั้งกล้อง และภายใต้จะมีไกสำหรับหมุนแบบ Free Hand สามารถหมุนเพื่อสวมกับขาตั้งกล้องได้เลย

เรียนรู้ก่อนเปิดใช้งาน
Matterport Pro2 ด้านหน้าจะเป็น กล้องถ่ายภาพ และ Infrared จำนวน 3กลุ่ม สร้างภาพ 360o ที่ความละเอียด 138Mega Pixel (ใช้ได้ดีใน indoor ไม่เหมาะกับ outdoor)
มาพร้อม Battery สามารถใช้งานได้ทั้งวัน ใช้เวลาสแกนประมาณ 1 นาทีต่อจุด แต่ละจุดควรอยู่ห่างกันน้อยกว่า 5เมตร และการเคลือนไหวน้อยที่สุด หรือไม่ควรมีอะไรมาเดินหรือบังหน้ากล้อง
ที่ด้านหลังของกล้องจะมีพัดลมระบายความร้อนอยู่ที่ด้านบน และมีปุ่มการสำหรับใช้งานอยู่ 2ปุ่ม คือ เปิด/ปิดเครื่อง และ สถานะแบตเตอรี่ ส่วนที่เหลือจะเป็นหน้าจอแสดงสถานะ และอื่นๆ

การเชื่อมต่อ App และ Matterport Pro2
การใช้งานเครื่อง Matterport Pro2 หลังจากที่เราทำการกดเปิดเครื่องแล้วตัวเครื่องจะถามเราว่า พร้อมที่จะเชื่อมต่อ Wifi หรือไม่
โดยตัวเครื่อง จะปล่อย Wifi ออกมาในชื่อ Matterport ให้เราทำการเชื่อมต่อและจากนั้นให้ไปที่ Application Matterport Capture สามารถใช้ได้ทั้ง ได้ทั้ง IOS และ Android

เริ่มสั่งการใช้งาน
หลังจากที่เราเชื่อมต่อแล้ว เริ่มทำการ Create Jobs หรือสร้างสโคปงานของเรา โดยกดที่ไปเครื่องหมายบวกหลังจากนั้นจะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เราทำการกรอกข้อมูล ข้อมูลที่จะกรอกจะเป็นชื่อ Site งานที่เราไปสแกนที่อยู่สถานที่ และอื่นๆ เราจะกรอกเลยก็ได้ แต่ถ้าหากด่วนมากเราสามารถนำมากรอกทีหลังได้เช่นกัน เสร็จทำการกด Save จะเป็นหน้าสีดำๆโล่ง และมีปุ่มควบคุมขึ้นทางด้านขวามือ หากจะทำการสแกนให้กดที่ปุ่มสีขาว การสแกน จุดแรกเป็นสิ่งสำคัญ พยายามให้การสแกนมองเห็นได้กว้างที่สุด หรือโล่งมากที่สุด เนื่องจากการสแกนจุดถัดไป เค้าจะยึด Referent จากจุดเดิม หากจุดเดิมที่สแกนมองเห็นได้น้อย จะทำให้การสแกนจุดที่2ไม่สำเร็จ

หลังจากทำการสแกนในจุดแรกไปแล้วให้ทำการขยับMatterport Pro2 ของเราออกมาประมาณไม่เกิน 5เมตร และสแกนต่อไปเรื่อยๆ ส่วนการวางจุด ตัว Matterport Pro2 เค้าจะทราบเองว่าเราวางอยู่ที่จุดไหน หรือสแกนอยู่ที่จุดไหน เนื่องจาก Referent เดิม


Dfine – Digital Reality


Dfine – Digital Reality


Dfine – Digital Reality


Dfine – Digital Reality

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับการเรียนทำ Matterport เบื้องต้นสามารถทำได้ไม่ยาก ส่วนที่เหลือเราก็ทำการอัพโหลดขึ้นไป และแก้ไขอื่นๆอีก
ข้อดีและข้อเสียของ Matterport Pro2 ขอดีเลยคือใช้งานง่าย สแกนได้เร็ว ผู้ใช้สามารถเดินตามการแสกนได้ ไม่ต้องกลัวมาใครจะมาชนหรือเดินเตะของเราได้
ส่วนขอเสียมีน้อยมาก จะมีหลักๆแค่การแสกนเน้นภายในมากกว่าเพราะจะแพ้เรื่องแสง หากแสงที่สว่างมากไปเช่นไฟสปอร์ทไลท์ ซีน่อน ที่ฉายมาโดนแบบโดยตรง หรือกลางแจ้งเช่นแสงพระอาทิตย์นั่นเอง
หากใครสนใจเกี่ยวกับ Virtual Tour ทางเราก็มีบริการแสกน เริ่มต้นที่ 8,000 บาท แต่หากธุรกิจไหนหรือบริษัทไหนต้องการนำไปต่อยอดธุรกิจเราก็มีจำหน่ายเช่นกัน

 

 

 

 

 

 

Leave a Reply